‘ยวน แบลร์’ ลูกชายอดีตนายกฯ อังกฤษ เศรษฐีพันล้านจากการสร้าง ‘Multiverse’
ลูกชายหมายเลขหนึ่งหลายคน ที่กลายเป็นจุดสนใจของสังคมตั้งแต่เด็ก อาจเกิดมามีชีวิตที่ล้มเหลว จากความกดดัน หรือความคาดหวังของคนจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ ยวน แบลร์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ที่โตขึ้นมาประสบความสำเร็จเป็นมหาเศรษฐี แถมยังได้รับพระราชทานเครื่องราชชั้นเอ็มบีอี จากสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 ตั้งแต่อายุยังน้อย
ยวน แบลร์ กลายเป็นข่าวพาดหัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่สร้างสรรค์แพลตฟอร์ม มัลติเวิร์ส เทคโนโลยีการเรียนรู้ออนไลน์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีภายในเวลาไม่กี่เดือน
ก่อนหน้านี้ ในวัย 16 ยวน เคยเป็นข่าวพาดหัวตอนที่ออกมาขอโทษสังคม เรื่องเมาแล้วขับ ที่ย่านเวสต์เอ็น กรุงลอนดอน แต่ 20 กว่าปีต่อมา กลายเป็นพาดหัวในเรื่องดีๆ ในฐานะอัจฉริยะแห่งยุคมิลเลนเนียน ด้วยแพลตฟอร์มของเขา ทำให้เด็ก ๆ สามารถหางานที่ดี ๆ ทำได้ โดยไม่ต้องเรียนจบระดับมหาวิทยาลัย
มหาเศรษฐีระดับเจ้าของบริษัทและซีอีโอหลายคนดรอปหรือเลิกเรียนหนังสือกลางคัน แต่ไม่ใช่ ยวน ที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านประวัติศาสตร์ยุโรปโบราณจากมหาวิทยาลัยบริสตอล รวมทั้ง ปริญญาโทด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยเยล
นอกจากนี้ เขายังมีประสบการณ์ฝึกงานที่รัฐสภาของสหรัฐฯ ก่อนจะไปเขาเรียนด้านการเงินของมอร์แกน สแตนลีย์ ในปี 2008 เขาให้สัมภาษณ์ว่า จริง ๆ พอโตแล้วก็ขี้เกียจเรียนหนังสือ แต่ต้องเรียน เพราะเห็นว่า คือหนทางเดียวที่จะมีอาชีพการงานที่ดี
แม้ว่า ยวน แบลร์ จะเติบโตมาบนกองเงินกองทองอยู่แล้ว แต่ความร่ำรวยเป็นเศรษฐีพันล้านของเขา มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองโดยแท้ ในการสร้างสรรค์ มัลติเวิร์ส ที่เป็นสตาร์ตอัปการเรียนรู้ ที่ช่วยจับคู่สมาชิกรุ่นเยาว์ของเว็บไซต์เข้ากับงานการในบริษัทชั้นนำ อย่างกูเกิลและบลูมเบิร์ก ฯลฯ
ไอเดียของยวน เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มตระหนักว่า ที่เรียนมาด้านประวัติศาสตร์ยุโรปโบราณจากบริสตอลนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่ มัลติเวิร์ส ยังไม่สุกงอม จนกระทั่งเขาได้พบกับ โซฟี อะเดลแมน ที่มอร์แกน สแตนลีย์ และทั้งคู่ก็ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทชื่อ ไวท์แฮท
แพลตฟอร์มดังกล่าว เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับที่ โทนี พ่อของเขาเคยประกาศเป็นนโยบายของอังกฤษ เรื่องการสนับสนุนให้เด็กทุกคนมีโอกาสได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย โดยในปี 1999 ที่โทนี แบลร์ เป็นนายกรัฐมนตรี เขาทำได้อย่างที่พูดเพียง 50% เท่านั้น เป้าหมายของเขาสำเร็จในปี 2019 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่เขาลงจากตำแหน่งไปนานถึง 12 ปี
